*** คำช่วยแสดงประธาน และกรรมในประโยค
เมื่อเราผันกริยาเป็นก็จะสามารถแต่งประโยคสั้นๆได้แล้วนะคะแต่ต้องมารู้จักคำชี้ประธาน, ชี้กรรมกันก่อน คำชี้ประธาน,
คำชี้กรรมไม่มีความหมายแต่ต้องใส่เพื่อให้รู้ว่าคำไหนทำหน้าที่เป็นประธานหรือเป็นกรรมในประโยค
** คำช่วยแสดงประธาน 이/가
วางไว้หลังคำนามเพื่อแสดงให้เห็นว่าคำนามนั้นทำหน้าที่เป็นประธานของประโยค
วิธีการเติม
วาง 이 ไว้หน้าคำนามที่ลงท้ายด้วยตัวสะกด
가방 + 이 --> 가방이 예뻐요. คาบางี เยปอโย (กระเป๋าสวย)
วาง가 ไว้หน้าคำนามที่ลงท้ายด้วยสระ
오빠 + 가 --> 오빠가 전화해요โอป้ากา ชอนฮวาแฮโย (พี่ชายโทรศัพท์)
นอกจาก 이/가 ที่ทำหน้าที่ชี้ประธานยังมีอีกที่ทำหน้าที่ชี้ประธานคือ 은, 는 โดย
은, 는ใช้ชี้เฉพาะเจาะจง ส่วน이/가 ไม่ชี้เฉพาะเจาะจง กล่าวทั่วๆไป
วิธีการเติม
วาง 은 ไว้หน้าคำนามที่ลงท้ายด้วยตัวสะกด
옷 + 은 --> 옷은 비쌉니다. โอ-ซึน พี-ซัม-นี-ดา (เสื้อแพง)
วาง 는 ไว้หน้าคำนามที่ลงท้ายด้วยสระ 오빠 + 는 --> 오빠는 운동해요. โอ-ป้า-นึน อุน-ดง-แฮ-โย (พี่ชาย ออกกำลังกาย
Notice :
สำหรับใช้กับคำว่า “ฉัน” ใช้ได้ทั้ง 저는 (ชอ-นึน) หรือ 제가(เช-กา) / 내가 (แน-กา) แต่ 2 คำหลังต้องใช้คู่กับ 가 เท่านั้น
เพราะถ้าคำเดียวจะแปลว่า ของฉัน
** คำช่วยแสดงกรรม 을 / 를
วางไว้หลังคำนามเพื่อแสดงให้เห็นว่าคำนามนั้นทำหน้าที่กรรมในประโยค โดยใช้ร่วมกับคำกริยาที่ต้องการกรรมมาเติมเต็ม
โครงสร้างประโยค ประธาน + กรรม+ คำกริยา (ที่ผันแล้ว) การแปลความหมายขึ้นต้นประโยคด้วยประธานแล้วแปลจากหลังไปหน้า
วิธีเติม
วาง을 หลังคำนามที่ลงท้ายด้วยตัวสะกด
저는 책을 읽어요.
ชอนึน แชกึล อิลกอโย = ฉันอ่านหนังสือ
(저 + คำชี้ประธาน는 / 책 + คำชี้กรรม 을 / คำกริยาที่ผันแล้ว -읽어요)
วาง를 หลังคำนามที่ลงท้ายด้วยสระ
동생이 사과를 먹어요.
ทงแซงี ซากวารึล มอกอโย = น้องกินแอปเปิ้ล
동생+ คำชี้ประธาน이 / 사과+ คำชี้กรรม를 / คำกริยาที่ผันแล้ว - 먹어요
***무엇을 해요? ในรูป 요 --> 무엇 แปลว่าอะไร เติมชี้กรรม 을 + คำว่า해요(ทำ) = ทำอะไร?
แต่นิยมผสมคำจึงออกเสียงว่า 뭐 해요? มวอ-แฮ-โย๊?
แต่ถ้าใช้กับคำกริยาอื่นๆก็ใช้ 무엇을 มู-ออ-ซึล ตามปกติเช่น 무엇을 먹어요? มู-ออ-ซึล มอ-กอ-โย๊? = กินอะไร?
Notice :
ถ้าคำกริยาลงท้ายด้วย 하다 จะใส่คำชี้กรรมหรือไม่ใส่ก็ได้ ยกเว้นคำว่า 촣아하다 ต้องใส่คำชี้กรรมด้วย
저는 숙재를 해요 หรือ 저는 숙재해요
***การสังเกตง่ายๆ ไม่ว่าจะเป็น 이/가, 은/ 는 หรือ 을 / 를 คำที่มีตัว ㅇ มักจะตามคำที่ลงท้ายด้วยตัวสะกด
เพราะจะเข้ากับกฎการโยงเสียง
** คำช่วยแสดงสถานที่ 에 / 에서
คำช่วยแสดงสถานที่ 에 (Direction) เป็นการชี้สถานที่ที่เป็นจุดหมายปลายทางมักใช้ร่วมกับคำกริยาที่แสดง
การเคลื่อนที่ เช่น 가다 (ไป) , 오다(มา) , 돌아가다(กลับไป) , 돌어가다(เข้าไป), 놀아가다(ไปเที่ยว) ,
내려가다(ลงไป) , 걸어가다(เดินไป) เป็นต้น จำง่ายๆที่ลงท้ายด้วย 가다 กับ 오다 จะใช้ 에 เป็นคำช่วยแสดงสถานที่ เช่น
아버자가 한국에 가요.
อาบอจีกา ฮันกูเก คาโย = พ่อไปที่ประเทศเกาหลี
친구가 집에 와요.
ชิ่นกูกา ชีเบ วาโย = เพื่อนมาที่บ้าน
준수씨가 태국에 가요?
จุนซูชี่กา เทกูเก คาโย = คุณจุนซูไปประเทศไทยหรือคะ?
어디에 가요?
ออดีเอ คาโย๊ะ? = ไปไหนหรือคะ?
(Location) ชี้สถานที่ที่สิ่งใดมีอยู่ หรือไม่ได้มีอยู่ ใช้ร่วมกับคำกริยา 있다 , 없다เป็นลักษณะประโยคที่แสดงว่า
อะไร/ใครอยู่/ไม่ได้อยู่ที่ไหน เช่น
아버자가 한국에 있어요. = พ่ออยู่ที่ประเทศเกาหลี
아버자가 태국에 없어요. = พ่อไม่ได้อยู่ที่ประเทศไทย
선생님이 학교에 있어요? = อาจารย์อยู่ที่โรงเรียนหรือเปล่าคะ?
여동생이 어디에 있어요? = น้องสาวอยู่ที่ไหนหรือคะ?
*** จำง่ายๆคำช่วยแสดงสถานที่ 에 ใช้กับกริยา가다, 오다, 있다 , 없다 และคำกริยาผสมที่มีคำว่า 가다, 오다 รวมอยู่ด้วย
เท่านั้นส่วนกริยาอื่นๆใช้ 에서
에서 + Action Verb
- ชี้สถานที่ที่มีการกระทำเกิดขึ้น ใช้ร่วมกับคำกริยาการกระทำ
- เป็นลักษณะประโยคที่แสดงว่าใครทำอะไรที่ไหน
- โครงสร้างประโยค คือ
[ประธาน (이/가)+ สถานที่ (에서)+ กรรม(을/를) + คำกริยาที่ผันแล้ว
아버자가 한곡에서 일해요?
อาบอจีกา ฮันกูเกซอ อิลแฮโย๊ะ ? = คุณพ่อทำงานที่ประเทศเกาหลีหรือคะ?
어디에서 공부합니까?
ออดีเอซอ คงบูฮัมนิก้า ? = เรียนที่ไหนหรือคะ ?
백화점에서 뭐 해요?
แบควาจอเมซอ มวอ แฮโย๊ะ? = ทำอะไรที่ห้าง?
에, 에서 เป็นคำช่วยชี้สถานที่ 에 ยังเป็นคำช่วยในการชี้วันและเวลาอีกด้วยแสดงความหมายเหมือน
at, on ในภาษาอังกฤษ เช่น
오후에 친구를 만나요.
โอ-ฮู-เอ ชิ่น-กู-รึล มัน-นา-โย = พบเพื่อนในตอนบ่าย
토요일에도 회사에 갑니까?
โท่-โย-อิ-เร-โด ฮเว-ซา-เอ คัม-นิ-ก้า? = วันเสาร์ก็ไปทำงานด้วยหรือคะ
여덟시에 학교에 갑니다.
ยอ-ดอล ชี-เอ ฮัก-กโย-เอ คัม-นิ-ดา. = ไปโรงเรียนตอน 8 โมง
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น